บีโอไอ เผยผลสำเร็จการจัดงาน SUBCON EEC 2023 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2566 ณ จังหวัดชลบุรี ยอดจับคู่ทางธุรกิจจำนวน 848 คู่ มูลค่ากว่า 7,300 ล้านบาท ยกระดับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เดินหน้าจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงผลการ จัดงาน SUBCON EEC 2023 และงาน MIRA (Maintenance, Industrial Robotics and Automation) โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กับสมาคมส่งเสริมการรับช่วง การผลิตไทย และบริษัท อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายนที่ผ่านมา โดยเป็นการจัดงานปีที่ 2 ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จเกินเป้าที่ตั้งไว้ โดยเกิดการจับคู่ทางธุรกิจจำนวน 848 คู่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 7,300 ล้านบาท ซึ่งการจัดงานนี้ เพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ SMEs ไทยในการสร้างความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ และสร้างความเข็มแข็งของ Supply Chain ในระดับโลกของอุตสาหกรรมเป้าหมาย
พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นับเป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่สำคัญ และมีศักยภาพสูงในการดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก เนื่องจากมีความพร้อมด้านสาธารณูปโภคและระบบโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม บุคลากรทักษะสูง และที่สำคัญคือ Supply Chain ที่ครบวงจร โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม – มิถุนายน 2566) มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 306 โครงการ เงินลงทุนรวม 171,470 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 47 ของการลงทุนทั้งหมด ในปีนี้ บีโอไอจึงเดินหน้าจัดงาน SUBCON ในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อต่อยอดความสำเร็จ ยกระดับห่วงโซ่อุปทาน และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่มากขึ้น
"SUBCON EEC ถือเป็นงานที่รวบรวมผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นในพื้นที่ EEC บีโอไอยังคงเดินหน้าสนับสนุนภาคการผลิต ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมและการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ โดยสร้างการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ เพื่อทำให้เกิดการจัดซื้อวัตถุดิบและชิ้นส่วนภายในประเทศให้มากที่สุด รวมทั้งเกิดความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยี หรืออาจนำไปสู่การร่วมทุนระหว่างไทย - ต่างชาติ โดยการจัดงานครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานจำนวน 5,786 คน ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดี สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวของผู้ประกอบการ และแนวโน้มการขยายตัวของการลงทุน ที่กำลังขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรมเป้าหมายและเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ที่ไทยจะเป็นฐานการผลิตสำคัญของภูมิภาค” นายนฤตม์ กล่าว
นอกจากการจัดแสดงสินค้าและโซลูชั่นอุตสาหกรรมที่ทันสมัยจากผู้ประกอบการกว่า 150 ราย และเวทีเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกว่า 840 คู่แล้ว ยังมีบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การพัฒนาบุคลากร การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งการจัดประชุมผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชนกว่า 60 คน เพื่อระดมความคิดเห็นด้านการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมภายในประเทศ ตลอดจนการยกระดับอุตสาหกรรมโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
จากความสำเร็จในครั้งนี้ บีโอไอจึงมีแผนจัดงาน SUBCON EEC เป็นประจำทุกปีควบคู่กับงาน SUBCON Thailand ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ โดยงานครั้งต่อไปจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 18 พฤษภาคม 2567 และงาน SUBCON EEC จะจัดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 4 – 6 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม ได้จากกองพัฒนาผู้ประกอบการไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผ่าน https://build.boi.go.th
PR103_2566.pdf (Download)
อัพเดทเมื่อ : 12/09/2566