บีโอไอ ผนึกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ซับคอน) และ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เดินหน้าจัดงาน SUBCON EEC 2023 ระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2566 ณ สวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี เสริมศักยภาพผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคตะวันออก ดันไทยศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน สอดรับยุทธศาสตร์พลิกโฉมไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ คาดจับคู่ทางธุรกิจกว่า 600 คู่ สร้างมูลค่าการเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 2,000 ล้านบาท
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดงาน SUBCON EEC 2023 ต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ 2 ระหว่างวันที่ 6 - 8 กันยายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการครบวงจรที่รวมเอาเทคโนโลยีด้านการบำรุงรักษาของภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติ และโซลูชันอุตสาหกรรมจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมการแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจที่ครบวงจรที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อสนับสนุนภาคการผลิตและธุรกิจบริการไทยให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และระบบการผลิตอัจฉริยะ เป็นต้น โดยภายในงานจะมีบริษัทมาร่วมแสดงสินค้ากว่า 150 ราย ผู้ซื้อรายใหญ่กว่า 100 ราย คาดว่าจะเกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 600 คู่ ซึ่งจะสร้างมูลค่าการเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 2,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 5,000 คน
สำหรับปีนี้ถือเป็นหนึ่งในปีทองการลงทุนของไทย จากแนวโน้มการลงทุนในครึ่งปีแรกที่มีทิศทางบวก โดยมีโครงการยื่นขอส่งเสริมการลงทุน 891 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 18 เป็นเงินลงทุนกว่า 364,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 โดยเป็นการลงทุนใน 3 กลุ่มหลักที่ขยายตัวโดดเด่น ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรและอาหาร และยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นๆ ที่ขยายตัวมากขึ้น ได้แก่ ไบโอเทคโนโลยี การแพทย์ ดิจิทัล และอากาศยาน
"สำนักงานได้เลือกจัดงาน SUBCON EEC 2023 ในพื้นที่ EEC เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอุตสาหกรรมหลักของประเทศ โดยงานนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสร้างความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ ในการว่าจ้างผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยี การจัดซื้อชิ้นส่วนจากในประเทศ หรือการร่วมทุนระหว่างไทย - ต่างชาติ ซึ่งจะทำให้ Supply Chain ของอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้มแข็งยิ่งขึ้น” นายนฤตม์ กล่าว
สำหรับการจัดงาน SUBCON EEC 2023 ในครั้งนี้ ได้ขนทัพเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยในด้านการบำรุงรักษาภาคอุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติ รวมไปถึงความล้ำสมัยของระบบหุ่นยนต์ที่ในวันนี้กลายเป็นส่วนเติมเต็มสำคัญในภาคการผลิตของไทย พร้อมกันนี้ยังได้รวบรวมผู้ให้บริการด้าน SI (System Integrator) ทั้งจากไทยและญี่ปุ่นมาแชร์ประสบการณ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และไฮไลต์สำคัญที่ถือเป็นจุดแข็งของการจัดงานซับคอนไทยแลนด์คือ การจับคู่ธุรกิจซึ่งจัดโดยบีโอไอ และที่พลาดไม่ได้คือการอัปเดตเทรนด์และองค์ความรู้ใหม่ ๆ ในภาคอุตสาหกรรมจากผู้เชี่ยวชาญที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ตรงผ่านหัวข้อสัมมนาต่าง ๆ เพื่อเชื่อมต่อการสร้างเครือข่ายกับผู้ซื้อรายใหญ่จากทั่วโลก ผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมภายในงานได้ทางกองพัฒนาผู้ประกอบการไทย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ จัดงาน SUBCON EEC 2023 ต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ 2 ระหว่างวันที่ 6 - 8 กันยายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและบริการครบวงจรที่รวมเอาเทคโนโลยีด้านการบำรุงรักษาของภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติ และโซลูชันอุตสาหกรรมจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมการแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจที่ครบวงจรที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อสนับสนุนภาคการผลิตและธุรกิจบริการไทยให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อพื้นที่ภาคตะวันออก เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และระบบการผลิตอัจฉริยะ เป็นต้น โดยภายในงานจะมีบริษัทมาร่วมแสดงสินค้ากว่า 150 ราย ผู้ซื้อรายใหญ่กว่า 100 ราย คาดว่าจะเกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 600 คู่ ซึ่งจะสร้างมูลค่าการเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 2,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 5,000 คน
สำหรับปีนี้ถือเป็นหนึ่งในปีทองการลงทุนของไทย จากแนวโน้มการลงทุนในครึ่งปีแรกที่มีทิศทางบวก โดยมีโครงการยื่นขอส่งเสริมการลงทุน 891 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ร้อยละ 18 เป็นเงินลงทุนกว่า 364,420 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 โดยเป็นการลงทุนใน 3 กลุ่มหลักที่ขยายตัวโดดเด่น ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรและอาหาร และยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นๆ ที่ขยายตัวมากขึ้น ได้แก่ ไบโอเทคโนโลยี การแพทย์ ดิจิทัล และอากาศยาน
"สำนักงานได้เลือกจัดงาน SUBCON EEC 2023 ในพื้นที่ EEC เป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอุตสาหกรรมหลักของประเทศ โดยงานนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสร้างความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ ในการว่าจ้างผลิต การถ่ายทอดเทคโนโลยี การจัดซื้อชิ้นส่วนจากในประเทศ หรือการร่วมทุนระหว่างไทย - ต่างชาติ ซึ่งจะทำให้ Supply Chain ของอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้มแข็งยิ่งขึ้น” นายนฤตม์ กล่าว
สำหรับการจัดงาน SUBCON EEC 2023 ในครั้งนี้ ได้ขนทัพเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยในด้านการบำรุงรักษาภาคอุตสาหกรรม ระบบอัตโนมัติ รวมไปถึงความล้ำสมัยของระบบหุ่นยนต์ที่ในวันนี้กลายเป็นส่วนเติมเต็มสำคัญในภาคการผลิตของไทย พร้อมกันนี้ยังได้รวบรวมผู้ให้บริการด้าน SI (System Integrator) ทั้งจากไทยและญี่ปุ่นมาแชร์ประสบการณ์ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และไฮไลต์สำคัญที่ถือเป็นจุดแข็งของการจัดงานซับคอนไทยแลนด์คือ การจับคู่ธุรกิจซึ่งจัดโดยบีโอไอ และที่พลาดไม่ได้คือการอัปเดตเทรนด์และองค์ความรู้ใหม่ ๆ ในภาคอุตสาหกรรมจากผู้เชี่ยวชาญที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ตรงผ่านหัวข้อสัมมนาต่าง ๆ เพื่อเชื่อมต่อการสร้างเครือข่ายกับผู้ซื้อรายใหญ่จากทั่วโลก ผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมภายในงานได้ทางกองพัฒนาผู้ประกอบการไทย